เปิดตัว “ท่าเรือเวียงเชียงแสน” ท่าเรือท่องเที่ยวแห่งแรกของภาคเหนือ

นายภาสกร บุญญลักษณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย

     บริษัท นิว เชียงแสน กรุ๊ป จำกัด ร่วมกับ ททท. เทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน คณะกรรมการบริหารท่าเรือเวียงเชียงแสน หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เปิดท่าเรือท่องเที่ยวแห่งแรกของภาคเหนือ ณ ท่าเรือเทศบาลเวียงเชียงแสน (เชียงแสนแห่งที่ 1) จ.เชียงราย โดยผู้แทนจากประเทศไทย อาทิ นาย ชัยกฤษ นิสัยสุข นายกเทศมนตรี,  นายพินิช แก้วจิตกรทอง นายอำเภอเชียงแสน, นายคงเก่ง ประชากริช ประธานบริหารนิวเชียงแสนกรุ๊ป, นายพันณรงค์ ขุนพิทักษ์ รองประธานบริหาร ฯ นายชัชวาล สุขสมจิต สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ, กรุณา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ททท.เชียงราย และผู้แทน ฝั่งสปป.ลาว นายอิ่นคำ แก้วนารี หัวหน้าห้องว่าการปกครองเมืองต้นผึ้ง นายอู่ลา เพิงสวัสดิ์ หัวหน้ากรมขนส่งเมืองต้นผึ้ง นายแสงเงิน  อำพรไธ รองหัวหน้าห้องการแถลงข่าว โดย มี นายภาสกร บุญญลักษณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเป็นประธานในพิธี เมื่อค่ำวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา
     นายคงเก่ง ประชากริช ประธานบริหารบริษัท นิวเชียงแสนกรุ๊ป จำกัด กล่าวถึงการเปิดท่าเรือท่องเที่ยวแห่งแรกของภาคเหนือ ว่า การท่องเที่ยวทางเรือเป็นที่นิยมอยู่แล้ว สำหรับทางแม่น้ำโขงนั้น ถือเป็นเส้นทางเปิดใหม่ สมัยก่อนเส้นทางนี้เป็นที่เลื่องลือในเรื่องของอันตราย แต่ปัจจุบันมีความปลอดภัยเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากทางเรือขนส่งสินค้า เรือท่องเที่ยว วิ่งขึ้นล่องลำน้ำโขงแทบจะตลอดเวลา และด้วยความร่วมมือของ 4 ประเทศได้จัดตั้งศูนย์ป้องกัน และปราบปรามการกระทำผิดในแม่น้ำโขง เพื่อคอยดูแลรักษาความปลอดภัย ให้กับเรือขนส่งสินค้าและเรือท่องเที่ยวต่างๆ
     อีกทั้งยังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงตำรวจน้ำ ดังนั้นในเรื่องของความปลอดภัยจึงเป็นที่เชื่อถือได้ อีกทั้งทิวทัศน์บรรยากาศสองข้างทางริมฝั่งแม่น้ำโขง ก็สวยงาม และสามารถชื่นชมกับธรรมชาติที่ยังคงสภาพความเป็นป่าเขา จึงน่าจะเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว ที่จะได้มาเยี่ยมชมและเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ
      นายคงเก่ง กล่าวต่อว่า การเปิดท่าเรือท่องเที่ยวครั้งนี้จะสามารถอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้สัญจรไปมาได้มาก เนื่องจากทั้งทางด้านความปลอดภัย ความเป็นมาตรฐานของท่าเรือ ซึ่งก่อสร้างออกมาอย่างถูกต้องตามแบบวิศวกรรม และการควบคุมดูแลการสัญจรไปมา อีกทั้งยังสามารถควบคุมดูแลนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าออกประเทศ ได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและสะดวก ปัจจุบันนักท่องเที่ยวทางเรือที่เข้ามาเที่ยวประเทศไทยทางอำเภอเชียงแสนมีจำนวนน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นการขนส่งสินค้าเป็นส่วนมาก แต่หลังจากที่มีการเปิดท่าเรือแห่งนี้ตามมติครม. เพื่อเป็นท่าเรือท่องเที่ยวก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจากประเทศจีนปัจจุบันอยู่ที่ประมาณเดือนละ 500 คน เราตั้งเป้าหมายให้มีการใช้งานท่าเรือในช่วงปีแรกประมาณไม่น้อยกว่าเดือนละ 2,000 คน หรือปีละ 20,000 คน
     “ซึ่งการเดินทางโดยทางรถยนต์จากประเทศไทยไปยังประเทศจีน หรือจากประเทศจีนมายังประเทศไทยนั้นปัจจุบันนักท่องเที่ยวต้องใช้ทาง r3a เป็นหลัก โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง สองข้างทางก็เป็นทิวทัศน์ธรรมดา ที่เห็นได้ทั่วไปในท้องถนนซึ่งไม่น่าดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวสักเท่าไหร่ อีกทั้งยังเป็นเส้นทางถนนที่ใช้ในการขนส่งสินค้ามีอุบัติเหตุบ่อยครั้งการเปิดท่าเรือท่องเที่ยวครั้งนี้จึงเป็นการเผยให้เป็นถึงความงดงามทางทรัพยากรธรรมชาติของสองฝั่งแม่น้ำ ที่เพิ่มประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าสนใจมากขึ้น” นายคงเก่ง กล่าวในตอนท้าย
     ด้าน คุณกรุณา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ททท.เชียงราย กล่าวว่า “ททท. มีแผน เรียกว่าเชียงรายยั่งยืน เชียงรายแต้ๆ ความหลากหลายของเชียงราย มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชียงแสนมีประวัติศาสตร์  ที่สำคัญนับจากนี้เป็นต้นไปจะมีท่าเรือ จังหวัดเชียงรายมีท่าเรือ มีด่านสำหรับเข้าออกของนักท่องเที่ยวหลายด่าน เป็นจังหวัดเดียว มีทั้งที่มีเชียงของ ที่แม่สาย การมีท่าเรือเพิ่มขึ้นทำให้เป็นประตูสู่จังหวัดเชียงรายและเข้าสู่ประเทศไทยได้เพิ่มขึ้น และอย่างที่ทราบกันเป็นท่าเรือแห่งแรกของภาคเหนือ เชียงรายจะมีการเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวมากช่องทางเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเชียงแสนถือว่ามีความหลากหลายในเรื่องของวัฒนธรรม ยังมีเร่องของชุมชนท่องเที่ยวด้วย

ความคิดเห็น