ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี ของศิริคุณ ซีฟูดส์ ภายใต้การบริหารงานของครอบครัว “แสงสุขเอี่ยม” ด้วยปณิธานในการสรรหาและคัดสรรผลิตภัณฑ์อาหารทะเลไทย ระดับ Premium จากการสั่งสมประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ ในเรื่องอาหารทะเล ที่ถ่ายทอดความรู้จากรุ่นสู่รุ่น พัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง พลิกโฉมจากธุรกิจค้าปลีกอาหารทะเลที่สด สู่ระบบการจัดการการบริการตลอดทั้งการขนส่งอาหารทะเลที่มีความร่วมสมัยในรูปแบบของกลุ่มการขายในโมเดิร์นเทรด วันนี้ ศิริคุณ พร้อมรุกตลาดอาหารทะเล สร้างความแตกต่าง ผงาดก้าวขึ้นสู่แบรนด์อาหารทะเลอันดับ 1 อย่างมั่นใจ ตอกย้ำความเป็นตัวจริงเรื่องอาหารทะเลระดับพรีเมียม ก้าวอย่างแตกต่างด้วยกลยุทธ์ “ใส่ใจในทุกรายละเอียด” ชูจุดขาย “การบริการ” เน้นการทำธุรกิจด้วยหัวใจต่อความรับผิดชอบต่อสังคม ตามสโลแกนซีฟูดส์มาตรฐาน จิตวิญญาณแห่งท้องทะเล สร้างต้นแบบผู้ประกอบการอาหารทะเลเพื่ออนาคตประมงไทยยั่งยืน
“เมืองไทยไปให้คุณค่าของต่างประเทศเยอะ ว่าการกินดิบจะต้องใช้ของจากต่างประเทศ เราไปให้คุณค่าปลาต่างประเทศว่าดีกว่าของไทย แต่จริง ๆ แล้วของไทยกินดิบมาเนิ่นนานแล้ว คนต่างประเทศอย่างญี่ปุ่นนิยมปลาของเรา เพราะมีรสชาติ และขายในเมืองไทยเยอะ” คุณนิรันดร์ ยังเล่าต่ออีกถึงการนำปลาไทยมาทำซูชิและซาซิมิ เมื่อเทียบกับปลาของต่างประเทศ
อันที่จริงเมนูดิบของไทยมีมาช้านานแล้ว ไม่ว่าจะเป็น กุ้งแช่น้ำปลา, ปูดอง, เนื้อปลายำ, พล่าปลา เป็นต้น เพียงแต่ต้องรับประทานคู่กับการปรุงรส ไม่สามารถรับประทานเดี่ยวเหมือนปลาของต่างประเทศในเขตน้ำหนาวที่เนื้อมีความนิ่ม ในขณะเดียวกันคนต่างประเทศอย่างญี่ปุ่น หรือแม้กระทั่งร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยมากมายก็นิยมสั่งวัตถุดิบของศิริคุณเพื่อนำไปทำเป็นเมนูดิบ เพื่อตัดความเลี่ยนของปลาต่างประเทศที่เนื้อมีความนิ่ม เมื่อรับประทานบ่อยจะมีความเลี่ยน
“คนทะเลร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่มีใครใส่น้ำยา แย่ที่สุดก็คือเน่า แย่ที่สุดก็คือขายได้อยู่แล้ว ปลาเน่าก็ขายได้ คนไทยถ้ากินปลาไทย ถ้าห่วงว่าปลาไทยมีฟอร์มาลีน สารปนเปื้อนเพื่อความสด อันที่จริงแล้ว ปลาไทยแย่ที่สุดที่เราจะกินก็คือปลาไม่สด แต่ของไทยมันดีอย่างคือถ้าไม่สด แล้วเรารู้ เพราะเหม็น คาว มันคือสัญญาณบอกว่ากินไม่ได้ แต่เมื่อเทียบกับปลาต่างประเทศ เมื่อเน่าแล้วไม่มีกลิ่น อันนี้อันตรายกว่า เพราะฟอกน้ำยาจนไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่มีรสชาติ จากต้นทุนไม่กี่สิบบาท แต่ต้องซื้อมาในราคาหลายร้อย เพราะเราไปให้คุณค่ามันว่าคือปลาต่างประเทศ ค่านิยมเราคิดว่าของนอกดีกว่าของไทย” คุณนิรันดร์กล่าวเมื่อพูดถึงความสด หลายต่อหลายปีมาแล้วที่คนไทยได้รับข้อมูลเรื่องอาหารทะเลไทยมีการใส่สารเคมีอย่างฟอร์มาลีนเพื่อรักษาความสด ซึ่งหากเล่าจากมุมของคนทะเล
ในเรื่องของสุขอนามัยความปลอดภัยก็เช่นเดียวกัน ต้องอาศัยความเชื่อจและความเชื่อมั่นระหว่างคนซื้อและคนขาย ความเข้าใจเรื่องแหล่งน้ำ เพราะแหล่งน้ำเมืองไทยไม่ได้มีความสกปรกทั้งหมด แหล่งน้ำทะเลในเมืองไทยส่วนที่สะอาดมีมากมายห่างออกจากชายฝั่งทะเลประมาณ 10 กม. ก็ถือเป็นแหล่งน้ำสะอาดได้แล้ว
ศิริคุณมีเครือข่าวอาหารทะเลไทยมากมายที่เป็นเคล็ดลับความสด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มประมงหมู่บ้านชายฝั่ง, กลุ่มนักตกปลา, กลุ่มชนเผ่าราไวย์ ฯลฯ ที่เป็นเคล็ดลับความสดและกรรมวิธีการขนส่งหลายอย่างที่เรียกว่า Seafood Solutions
สำหรับปลาไทยที่อยู่ในทะเลไม่ได้จับเป็นเหมือนในประเทศญี่ปุ่น เราใช้วิธีการจับตาย การลงทะเลใช้เวลา 2 ชั่วโมงในการกู้ แล้วเก็บเข้าในท้องเรือด้วยวิธีการสาดน้ำแข็ง ทำให้ช่วงเวลานี้ ปลาอยู่ในเรือ 10 กว่าวัน ก่อนจะเข้ามาสะพานปลา และนำเอารถถ่ายสินค้า อาทิ เรือประมงจับได้ที่จังหวัดสุราษฎร์ และมีรถไปรับปลาที่จังหวัดสุราษฎร์ แล้วขับรถมาขายที่มหาชัย ฉะนั้นช่วงเวลาในการขนส่งที่เสียไป ความสดก็ตกหล่น
“เราต้องไปพึ่งห้องเย็นและการจัดการระบบ ที่สมัยก่อนเรียกการขายเกี้ย คนทะเลสมัยก่อน คนสะพานปลา เชื่ออย่างเดียวว่าขายของสดไม่จำเป็นต้องใส่น้ำแข็งเยอะ เพราะมันสด แต่ศิริคุณไม่เชื่ออย่างนั้น เราเชื่อว่าของสด ต้องใส่น้ำแข็งตั้งแต่เริ่มต้น จะมาคืนความสดในตอนหลังมันไม่ได้ ความสดที่หายไป เราพยายามหลีกเลี่ยงและพยายามหาต้นตอให้ได้เยอะที่สุด ตั้งแต่การจับปลาที่มี Shelf Life ที่เร็ว One day catching ได้ดีที่สุด วิธีการจัดการขึ้นฝั่งแล้วมาถึงเราได้เร็วที่สุด” คุณนิรันดร์ กล่าวถึงกระบวนการ Seafood Solions ของศิริคุณที่พยายามอย่างยิ่งยวด เพราะสร้างคุณค่าและยกระดับอาหารทะเลไทย
“สิ่งที่ทาง ศิริคุณ มองเป็นปรัชญาในการทำธุรกิจเรา คือเราเอาของดีให้ลูกค้าเท่านั้น ลูกค้าไม่รู้หรอกอันนี้ดีไม่ดี แต่ ศิริคุณ จะซื่อสัตย์กับตัวเราและส่งผลต่อลูกค้าและวันหนึ่งจะเป็นธุรกิจที่ยั่งยืนในอนาคต” คุณนิรันดร์กล่าวย้ำถึงวิถีการดำเนินธุรกิจที่ยึดมั่นมาตลอดกว่า 40 ปี
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น