เปิดตัวหนังสือ “อาหารทั่วไทย จากตำนานรุ่นสู่รุ่น มรดกวัฒนธรรมทางอาหาร” โดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม, อพท., ปตท., ททท., สมาคมภัตตาคารไทย และพันธมิตร ภายใต้การจัดทำโดยบริษัทสุชาโตและบริษัทณัฐสุรงค์
วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม 2562 ณ โรงแรม เดอะ ระวีกัลยา แบงค็อก เวลล์เนส คูซีน รีสอร์ท มีการแถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ อาหารทั่วไทย จากตำนานรุ่นสู่รุ่น มรดกวัฒนธรรมทางอาหาร โดย 11 พันธมิตรได้แก่ กระทรวงวัฒนธรรม, กรมส่งเสริมวัฒนธรรม, องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน), บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน), การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, ทิพยประกันภัย, สมาคมภัตตาคารไทย, หยั่นหว่อหยุ่น, ฮาตาริ, ทราเวล เรดิโอ, มีเดีย แอนด์ บล็อกเกอร์ คลับ และหนังสือเล่มนี้จัดทำโดย บริษัท สุชาโต จำกัด และบริษัท ณัฐสุรงค์ จำกัด
นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวว่า วัฒนธรรมที่มีความสำคัญกับคนไทยไม่น้อยไปกว่าวัฒนธรรมด้านใดๆ คือวัฒนธรรมด้านอาหาร ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงปัจจุบัน ตกทอดจากบรรพบุรุษสู่คนรุ่นหลัง แต่ละท้องถิ่นของไทยจะมีลักษณะอาหารการกินที่แตกต่างกันออกไป อาหารไทยเกิดจากภูมิปัญญาของชุมชนในการคิดค้น ปรับปรุง พัฒนา ดัดแปลง นำเอาวัตถุดิบต่างๆ ที่มีในท้องถิ่นประกอบกันเป็นอาหารรสชาติอร่อย มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไปในทุกภาคของประเทศ จนกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ถือได้ว่าอาหารไทยคือหนึ่งในมรดกทางภูมิปัญญาและวัฒนธรรมของชาติไทย ซึ่งภารกิจหนึ่งของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม คือร่วมส่งเสริมและสนับสนุนอาหารไทย
ทั้งนี้ ซีเอ็นเอ็น ทราเวลได้เผยแพร่รายงานการจัดอันดับประเทศที่มีวัฒนธรรมอาหารดีที่สุดในโลก 10 ประเทศ เมื่อเดือนมีนาคม 2562 พบว่า อาหารไทยติดอันดับ 8 ของอาหารที่มีวัฒนธรรมดีที่สุดในโลก ด้วยความที่อาหารไทยเน้นความประณีต พิถีพิถัน เป็นยา และใช้วัตถุดิบที่เป็นเอกลักษณ์ จึงทำให้เป็นอาหารยอดนิยมของนานาประเทศ โดยอาหารไทยที่ชาวต่างชาติคุ้นเคยดีและชื่นชอบในรสชาติเช่น ต้มยำกุ้ง แกงเขียวหวาน ผัดไทย ผัดกะเพรา ต้มข่าไก่ หมูสะเต๊ะ ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นต้น
อพท.สนับสนุนการเชื่อมโยงอาหารและการท่องเที่ยวในพื้นที่พิเศษในความดูแลของอพท.ไว้ด้วยกัน เพราะอาหารเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการนำเสนออัตลักษณ์และวัฒนธรรมท้องถิ่นให้นักท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นและดึงดูดให้ผู้มาเยือนเกิดความประทับใจ ทั้งในรสชาติและความสุนทรีย์ของอาหาร ไปพร้อมๆกับการท่องเที่ยวและการเรียนรู้ท้องถิ่นนั้นๆ เช่น ไก่ทอดมะแขว่น อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน, ขนมพระร่วง ชุมชนบ้านคุกพัฒนา จังหวัดสุโขทัย, ขนมจีนหน้าตั้ง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี, ข้าวปุ้นน้ำแจ่ว อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย, แกงไก่กะลา ชุมชนตะเคียนเตี้ย จังหวัดชลบุรี, หมูหยองชากแง้ว จังหวัดชลบุรี และกะปิเกาะช้าง จังหวัดตราด เป็นต้น
อาหารไทยจึงนับเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นของการเดินทางค้นหา เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเจ้าบ้านและผู้มาเยือน ในขณะเดียวกันก็เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนในระดับรากหญ้า เมื่อมีการเติมคุณค่าลงไปให้อาหารท้องถิ่น เกิดการพัฒนาต่อยอดกลายเป็นสินค้าเข้าสู่กระบวนการห่วงโซ่ความต้องการของการท่องเที่ยวได้ครบวงจรในที่สุด
หนึ่งในแรงจูงใจที่ทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทยถึง 40 ล้านคน เพราะประเทศไทยมีความหลากหลายทางด้านสถานที่ท่องเที่ยว, ด้านธรรมชาติ (Attractions), มรดกทางวัฒนธรรมที่ปรากฏให้พบเห็นได้อย่างน่าอัศจรรย์ ความสนุกสนานเพลิดเพลินของการบริการและนันทนาการ (Entertainment) กิจกรรมการช้อปปิ้ง ตลอดทั้ง “ความเป็นไทย” ที่แสดงผ่านกริยามารยาท มิตรจิตมิตรใจ การพูด การสนทนา การแต่งกาย วิถีชีวิต ที่สำคัญคือ “อาหารการกิน” ของคนไทย ที่สร้างความประหลาดใจและความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวแบบไม่รู้ลืม เมื่อพิจารณาการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจำนวน 3.08 ล้านล้านบาทนั้น พบว่า การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติเฉลี่ยประมาณร้อยละ 5 เป็นค่าใช้จ่ายในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม หรือมีมูลค่าราว 154,000 ล้านบาท
นางฐนิวรรณ กุลมงคล รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า สภาอุตฯท่องเที่ยวและสมาคมภัตตาคารไทยร่วมส่งเสริมคุณค่าของอาหารไทยไปพร้อมๆ กับส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยว เพื่อไปชิมอาหารในภูมิภาคต่างๆ โดยมีเป้าหมายสร้าง Experience ของอาหารในทุกภาค เปิดประสบการณ์ให้กับนักชิมและนักท่องเที่ยวได้เดินทางตามรอยไปชิม และภูมิใจในเมืองไทยและอาหารไทย
นางสาวสาธิตา โสรัสสะ ประธานมีเดีย แอนด์ บล็อกเกอร์ คลับ ,อุปนายกสมาคมการตลาดท่องเที่ยวไทย ,รองประธานคลัสเตอร์ท่องเที่ยว สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า ได้จัดทำพ็อคเก็ตบุ๊คเล่มนี้ขึ้น โดยเล็งเห็นถึงความสำคัญของอาหารไทย โดยเฟ้นหาอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดต่างๆ และร้านอาหารเก่าแก่ของบางจังหวัดที่อยู่มายาวนาน เพื่อจะเผยแพร่อาหารเหล่านี้ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
โดยพ็อคเก็ตบุ๊คเล่มนี้เป็นผลงานเล่มที่ 31 ของสาธิตา โสรัสสะ และมีผู้ร่วมจัดทำได้แก่ ดร.สุรศักดิ์ จิรวัสตร์มงคล บรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ,ดร.สุชาติ ศรีตะมา บล็อกเกอร์ภาคภาษาอังกฤษ และนายชาธร โชคภัทระ ช่างภาพประจำเล่ม บล็อกเกอร์ผู้คว้ารางวัลชนะเลิศบล็อกเกอร์ของททท.มาแล้ว การจัดงานเปิดตัวหนังสือครั้งนี้ จัดที่ โรงแรม เดอะ ระวีกัลยา แบงค็อก โรงแรมบูติคที่มีความงดงาม ตั้งอยู่ในย่านประวัติศาสตร์ของกรุงเทพฯ เป็นเรือนเก่าที่สร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ในช่วงประมาณปีพุทธศักราช 2400 เดิมถือเป็นเรือนพักอาศัยของพระนมของพระองค์ท่าน และเป็นส่วนหนึ่งของวังเทเวศร์
ภายในงานมีการจัดโซนอาหารภาคต่างๆ พร้อมเหล่าเซเลบได้แก่ 6 ดีเจสาวของเอฟเอ็ม 104.5 แทรเวล เรดิโอ ร่วมนำเสนอความเป็นไทย เชิญชวนเที่ยวและสัมผัสอาหารภาคต่างๆ ได้แก่ กนกนาถ ขจรกิจโกศล เซเลบสาวภาคอีสาน , ปานรดา ภูมิศุภนนท์ เซเลบสาวภาคตะวันออก ,แววรัตน์ ชำนาญภักดี เซเลบสาวภาคเหนือ , กสินา วิบูลย์วุฒิวงศ์ และหนามเตย พรพิบูลย์ เซเลบสาวภาคกลาง ,วันเพ็ญ จิตต์รุ่งเรืองชัย เซเลบสาวภาคใต้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น