สสส. ปลุกเทรนสุขภาพ “เพราะรักจึงผักนำ” ชี้ผักช่วยกวาดสิ่งหมักหมมในลำไส้ แนะวิธีเลือกกิน “ผักตามฤดูกาล” ลดเสี่ยงสารเคมี

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ Park@Siam กรุงเทพฯ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดงานแถลงข่าว “เพราะรักจึงให้ผักนำ” ให้ผักนำความรักในเทศกาลแห่งความรัก ภายใต้กิจกรรมรณรงค์ ผลักดันให้ผักนำ ภายในงานมีการสาธิตเมนู ผักทำง่าย...รักอร่อย พร้อมเปิดตัว MV เพลงเพราะรักจึงผักนำ เรียบเรียงและขับร้อง โดย สิงโต นำโชค หรือนายนำโชค ทะนัดรัมย์ นักร้อง นักแต่งเพลง
ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. กล่าวว่า ในโอกาสเทศกาลแห่งความรัก สสส. อยากชวนคนไทยมอบสิ่งดี ๆ แก่คนที่เรารักด้วยการส่งเสริมการรับประทานผักมากขึ้น ให้ทุกมื้อมีผักนำ องค์การอนามัยโลกคาดประมาณว่า การเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งของประชากรโลกกว่า 5.2 ล้านคน เป็นผลมาจากการบริโภคผักและผลไม้ไม่เพียงพอ (แนะนำให้บริโภคผักและผลไม้วันละ 400 กรัม) สสส. โดยแผนอาหารเพื่อสุขภาวะ จึงได้รณรงค์ผ่านโครงการ “ผลักดันให้ผักนำ” เพื่อช่วยลดปัญหาการเจ็บป่วยและการตายจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเกี่ยวกับอาหาร ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดการระบบอาหารเพื่อสุขภาวะ โดยส่งเสริมมาตรการให้เกษตรกรปลูกผักปลอดภัยหรืออินทรีย์ เชื่อมโยงผลผลิตผ่านการจัดซื้อจัดจ้างสีเขียวเข้าครัวโรงเรียน โรงพยาบาล หน่วยงานภาครัฐ-เอกชน ตามกรอบยุทธศาสตร์การจัดการด้านอาหารของประเทศไทย ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2560-2579
“สสส. สร้างความตระหนักผ่านการสื่อสารรณรงค์ในสังคม โดยพัฒนาเป็นชุดความรู้ ผลิตภาพยนตร์โฆษณาชุด “ผักนำ” สร้างการรับรู้ถึงการบริโภคอาหารที่ทุกมื้อควรมี ผักครึ่งจาน ส่วนอีกครึ่งจานเป็นคาร์โบไฮเดรทและโปรตีน และสื่อออนไลน์ 2 เรื่อง คือ ชุด “ผักบุ้ง” และ “กวางตุ้ง” พร้อมทั้งปฏิทินผักตามฤดูกาล ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกรับประทานผักที่ปลอดภัยควรเลือก “ผักตามฤดูกาล ลดเสี่ยงสารเคมี” ผักที่เติบโตตามธรรมชาติ เกษตรกรไม่ต้องพึ่งสารเคมีหรือยาฆ่าแมลงเพราะผักตามฤดูกาลมีความต้านทานโรคสูง” ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าว
นางสาวสิรินทร์ยา พูลเกิด ผู้จัดการแผนงานนโยบายอาหารและโภชนาการเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. กล่าวว่า ผลสำรวจพฤติกรรมการกินผักและผลไม้ของคนไทย ปี 2562 พบว่า ส่วนใหญ่คนโสด คนที่มีการศึกษาตั้งแต่มัธยมขึ้นไป อายุ 15 ปีขึ้นไป มีโอกาสกินผักและผลไม้ไม่เพียงพอเพิ่มขึ้น 1.4 เท่า ขณะที่ผู้ชายกินผักน้อยเพิ่มขึ้น 1.32 เท่า เมื่อศึกษาลงไปถึงอาชีพพบว่า คนทำงานบริษัทมีโอกาสกินผักและผลไม้ไม่เพียงพอเพิ่มขึ้น 2.52 เท่า สำหรับคนที่กินผักและผลไม้ไม่เพียงพอ ส่วนใหญ่แม่และภรรยาเป็นผู้หาผักและผลไม้เป็นหลัก ดังนั้น สะท้อนว่า คนที่เรารักเป็นคนสำคัญทำให้คนในครอบครัวได้กินผักและผลไม้เพียงพอในแต่ละวัน  ส่วนแหล่งที่ซื้อผักบ่อยที่สุดสำคัญที่สุด คือ ตลาดสด รองลงมาร้านขายของชำ และร้านรถเข็น หาบเร่
“จากผลการสำรวจยังพบว่า ข้อเสนอเชิงนโยบายส่งเสริมการกินผักและผลไม้ กลุ่มกินผักผลไม้เพียงพอเน้นสนับสนุนนโยบายส่งเสริมให้คนไทยปลูกผักสวนครัวกินเอง ขณะที่กลุ่มที่กินผักและผลไม้ไม่เพียงพอสนับสนุนนโยบายด้านทำผักและผลไม้ให้ปลอดภัย และปลอดสารพิษ ส่วนมาตรการระดับบุคคลควรรณรงค์ให้ความรู้ กระตุ้นให้ตระหนักเพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเรื่องการกินทั้งผักและผลไม้ให้เพียงพอต่อวัน รวมถึงการทำความสะอาดผักผลไม้ ส่งเสริมการกินผัก ส่งเสริมทักษะ การปลูกผักและผลไม้เองที่บ้าน  สำหรับมาตรการระดับสิ่งแวดล้อม ต้องเพิ่มการเข้าถึงผักผลไม้ทุกชนิด เพื่อเพิ่มการซื้อและการกินผักผลไม้ทุกขนาด ทั้งที่ตลาดสด ร้านขายของชำ ร้านสะดวกซื้อ สถานที่ทำงานในแหล่งที่ขายอาหารหรือให้บริการอาหาร ส่วนที่บ้านก็ปลูกผักผลไม้ ชวนกันปลูกผัก อยากเน้นให้คนไทยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกินผักและผลไม้ เพราะให้ทั้งสุขภาพและความอร่อย” ผู้จัดการแผนงานนโยบายอาหาร กล่าว
ดร.สง่า ดามาพงษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านโภชนาการ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า หนึ่งในข้อดีของการกินผัก คือ “ช่วยกวาดสิ่งหมักหมมในลำไส้” การบริโภคผักและผลไม้อย่างเพียงพอเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งเสริมสุขภาพได้ การได้รับใยอาหาร หรือ ไฟเบอร์จากผักจะช่วยกวาดนำสิ่งหมักหมมที่ตกค้างอยู่ในลำไส้ออกไป ช่วยส่งเสริมให้ระบบทางเดินอาหารสามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติ ลดอาการท้องผูก ป้องกันมะเร็งลำไส้ ริดสีดวงทวาร และลดการเกิดโรคระบบทางเดินอาหาร พร้อมทั้งมีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น และยังมีประโยชน์ในการลดค่าใช้จ่ายของภาครัฐในการดูแลรักษาโรค
ทั้งนี้ สามารถดาวน์โหลดภาพยนตร์โฆษณาในช่องทางออนไลน์ 2 เรื่อง คือ ชุด “ผักบุ้ง” และ “กวางตุ้ง” ปฏิทินผักตามฤดูกาล และสื่อรณรงค์ต่าง ๆ ที่เว็บไซต์ ลดพุง ลดโรค สสส. www.thaihealthlifestyle.com

ความคิดเห็น