(วานนี้ 19 ส.ค. 65) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีปิดโครงการและกิจกรรมสร้างความตระหนักแก่ภาคสาธารณะโครงการการดำเนินงานด้านนโยบาย ภายใต้แผนงานความร่วมมือไทย – เยอรมัน ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (TGCP-Policy) โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช เลขาธิการสำนักงานนโยบายเเละเเผนทรัพยากรธรรมชาติเเละสิ่งเเวดล้อม (สผ.)
ด้าน นายไรน์โฮลด์ เอลเกส ผู้อำนวยการองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศ ของเยอรมัน (GIZ) ประจำประเทศไทยและมาเลเซีย กล่าวชื่นชมประเทศไทยที่ได้ประกาศเป้าหมายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ท้าทาย ซึ่งสร้างความชัดเจนเชิงนโยบาย และเป็นการประกาศเจตนารมณ์ที่จะยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายไปสูาการปฏิบัติในระยะต่อจากนี้ องค์กร GIZ ยินดีอย่างยิ่งที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนประเทศไทยในหลายภาคส่วนให้บรรลุเป้าหมายที่ท้าทายนี้ พร้อมกันนี้ได้แสดงความยินดีต่อ ทส กับความสำเร็จในการจัดงาน Thailand Climate Action Conference (TCAC) เมื่อวันที่ 5-6 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า ทส มีความพร้อมและความก้าวหน้าในการสร้างเครือข่ายกับทุกภาคส่วน รวมถึงภาคเอกชน เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเป็นรูปธรรม
ดร. พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) นายศิระ ลีปิพัฒนวิทย์ ผู้ประกอบการเรือไฟฟ้าเช่าเหมาลำ “สุขสำราญ” และ ดร. สรณรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ อดีตประธานมูลนิธิโลกสีเขียว
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Movie & Talk ฉายภาพยนตร์เรื่อง ““Breaking boundaries” โดยมี “ยอด-บอล” จากรายการ “หนังพาไป” พร้อมด้วย ดร.เพชร มโนปวิตร จากมูลนิธิโลกสีเขียว รวมพูดคุย ต่อด้วยกิจกรรม Youth Climate Ready Workshop ซึ่งได้รับความสนใจจากนิสิตนักศึกษาเข้าร่วมกว่า 40 คน โดยในกิจกรรมได้เปิดโอกาสให้นักศึกษาออกแบบการสื่อสารเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อเป็นผู้นำในการขับเคลื่อน Climate Change ในกลุ่มเยาวชนต่อไป และยังมีส่วนนิทรรศการแสดงผลการดำเนินการโครงการฯ รวมถึงกิจกรรมร่วมแบ่งปันไอเดียจากผู้เข้าร่วมงานและผ่านช่องทางออนไลน์ในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพลเมืองโลกที่จะรับมือด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อโลกร่วมกัน
ทั้งนี้ ต่อเนื่องจากโครงการ TGCP-Policy ทส. ยังได้รับการสนับสนุนจากสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ในการดำเนินโครงการ Climate, Coastal, and Marine Biodiversity (CCMB) ซึ่งมี สผ. และ GIZ เป็นหน่วยงานดำเนินงานหลัก โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี (พ.ศ. 2565 - 2570) วงเงินประมาณ 360 ล้านบาท เพื่อยกระดับการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในปี ค.ศ. 2065 และขยายขอบเขตการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เชื่อมโยงกับการบริหารจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเฉพาะความหลากหลายชีวภาพทางทะเลและชายฝั่ง นอกจากนี้ ประเทศไทยยังได้รับการสนับสนุนโครงการอื่น ๆ ด้านพลังงานและขนส่ง และการรับมือต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในพื้นที่เมือง อีกประมาณ 1,290 ล้านบาท
สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีถือเป็นต้นแบบที่ดีในการตั้งเป้าหมายและขับเคลื่อนการดำเนินงาน ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจัง อีกทั้งยังคงให้การสนับสนุนด้านการเงิน องค์ความรู้ และเทคนิควิชาการ กับประเทศกำลังพัฒนาตามที่ได้ให้คำมั่นไว้ตามความตกลงปารีสมาโดยตลอด รวมถึงประเทศไทยที่ได้รับความร่วมมือในด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมาตลอดระยะเวลา 13 ปี ทั้งในสาขาพลังงาน คมนาคมขนส่ง อุตสาหกรรม น้ำ เกษตร การท่องเที่ยว และของเสีย วงเงินกว่า 3,810 ล้านบาท ทั้งนี้ ทส. จะได้ขยายความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งในรูปแบบความร่วมมือทวิภาคีและพหุพาคี เพื่อการสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายของประเทศไทยต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น