ผอ.สสว. กล่าวต่อไปว่า ปีนี้ สสว.จะเน้นกิจกรรมการผ่านโครงการ BDS เพิ่มเติมอีก 2 ด้านคือ ด้านการเพิ่มผลิตภาพและประสิทธิภาพธุรกิจ ด้านการพัฒนาและบริการจัดการธุรกิจ รวมกับหมวดการให้บริการที่เปิดอยู่แล้ว 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าและบริการ และด้านการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายและการตลาด และด้านการพัฒนาตลาดต่างประเทศ รวมเป็นทั้งหมด 5 หมวดการให้บริการ
“เราเชื่อว่า ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ หรือลดต้นทุน หรือเพิ่มประสิทธิภาพ หรือสร้างโอกาสทางการค้าการลงทุน สร้างรายได้เพิ่มขึ้น หรือมีความพร้อมในด้านมาตรฐาน โดยคาดว่าจะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรมนี้ มากกว่า 2,100 ราย และสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นมากกว่า 370 ล้านบาท”
สำหรับกิจกรรม “BDS Matching Day” ในวันนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อสนับสนุนด้านการพัฒนาธุรกิจในรูปแบบใหม่ของ สสว. ที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะสามารถเลือกรับบริการ หรือพัฒนาธุรกิจกับผู้ให้บริการทางธุรกิจ (SME Service Provider) ในด้านที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจ ผ่านระบบ BDS โดยการจัดงานในวันนี้ เป็นการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีถึงความต้องการใช้บริการผ่านระบบ BDS และเปิดโอกาสให้ผู้ให้บริการทางธุรกิจ (BDSP) เสนอบริการเพิ่มเติม เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการ ระหว่างผู้ประกอบการและผู้ให้บริการทางธุรกิจ นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการออกบูธนำเสนอบริการจากผู้ให้บริการทางธุรกิจ เพื่อให้ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถขอรับบริการได้ทันที ซึ่ง สสว. มีพื้นที่เตรียมดำเนินกิจกรรมทั่วประเทศ โดยมีระยะเวลาดำเนินการ ตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2566
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น