CEA แถลงสรุปโครงการ “CHANGEx2 Local Collab” โชว์ผลงานปั้นธุรกิจใหม่ ร่วมกับ ครีเอเตอร์ 30 คู่ ส่งเสริมรายได้อย่างยั่งยืน

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชนหรือ CEA แถลงสรุปโครงการ “CHANGEx2 Local Collab แท็กทีมปั้นธุรกิจใหม่ หนุน Soft Power ไทย สร้างรายได้แพ็กคู่จากพื้นที่ จังหวัด ได้แก่       ศรีสะเกษนครปฐม สุพรรณบุรี ชลบุรี เเละสงขลา ส่งเสริมการสร้างรายได้ให้กับธุรกิจดั้งเดิม สร้างแบรนด์ดิงให้กับสินค้าท้องถิ่น สู่การผลักดันสินค้าให้ส่งออกได้ในตลาดสากล คาดเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจท้องถิ่นที่เข้าร่วมโครงการไม่ต่ำกว่าร้อยละ 26 ตลอดการจัดโครงการ โดยผลประกอบการภายใน เดือนแรก (มิ..- .. 66)  ทำรายได้ไปแล้วกว่า 2.5 ล้านบาท พร้อมจัดแสดงผลงานจากผู้ประกอบการ ร่วมกับครีเอเตอร์ไทยรุ่นใหม่ ทั้งหมด 30 คู่ธุรกิจ ภายในงาน ไทย เที่ยว ไทย ครั้งที่ 67” ศูนย์การประชุมเเห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 24 - 27 สิงหาคม 2566 เวลา 10.00 - 21.00 
คุณอาสา ผิวขำ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาธุรกิจและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA)     เป็นตัวแทนเปิดโครงการในครั้งนี้ กล่าวว่า “CEA เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในการยกระดับเศษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศและส่งเสริมการพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการธุรกิจสร้างสรรค์ ซึ่งโครงการ “CHANGEx2: Local Collab” จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจสร้างสรรค์ ต่อยอดและสร้างความเป็นไปได้ใหม่ให้กับธุรกิจ ด้วยกระบวนการคิดเชิงออกเเบบ (Design Thinking)การออกเเบบบริการ (Service Design) ร่วมกับการค้นหาความเป็นไปได้ทางธุรกิจ (Business Viability) เเละความสามารถในการสร้างรายได้ใหม่จากธุรกิจเดิม (New Revenue) อย่างยั่งยืน โดยตั้งเป้าผลักดัน Soft Power ของท้องถิ่นไทยให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโล

สำหรับโครงการ “CHANGEx2 Local Collab แท็กทีมปั้นธุรกิจใหม่ หนุน Soft Power ไทย สร้างรายได้แพ็กคู่”  ในปีนี้ มีผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาเข้าร่วมพัฒนาผู้ประกอบการ ทั้งด้านธุรกิจ การออกแบบบริการ (Design Thinking) ด้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เเละด้านธุรกิจเเละเทคโนโลยีเชิงสร้างสรรค์ ร่วมมือกับภาคีพันธมิตร   ทั้งภาครัฐและเอกชน ลงพื้นที่เพื่อฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ พัฒนาศักยภาพธุรกิจและพัฒนาอัตลักษณ์ท้องถิ่น รวมถึงจัดทำต้นแบบบริการ ซึ่งเป็นการจับคู่ระหว่างผู้ประกอบการท้องถิ่นกับครีเอเตอร์ทั้งหมด 30 คู่ ร่วมกันพัฒนาธุรกิจและส่งเสริมรายได้กลับสู่ท้องถิ่น

นอกจากนี้ยังมีผลงานไฮไลต์จาก คู่ธุรกิจของโครงการฯ ตอกย้ำความสำเร็จอันเกิดจากการผสานธุรกิจเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ ในกลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยว (Local Tourism) และการบริการ (Service) ได้แก่ 

1. ศรัณยา มงคลวิทย์ ผู้ประกอบการร้านเชลล์ไม่เคยชิม ร่วมกับครีเอเตอร์ กฤตวัฒน์ อรรถสิษฐ์โมเดลธุรกิจที่สร้างร่วมกัน : เมนูอาหารกินเล่นแบบ Ready to cook ทั้ง เมนูใหม่ ได้แก่ ปอเปี๊ยะหมูแดง และ ปอเปี๊ยะหมูสะเต๊ะ จังหวัดนครปฐม 

2. จิราพร ชยามหายันต์ ผู้ประกอบการบ้านสวนรีสอร์ทจุรีปันสุข ร่วมกับ ครีเอเตอร์ สาวิตรี บำรุง โมเดลธุรกิจที่สร้างร่วมกัน : Mu Suphan มูสุพรรณ ทริปสายมูในรูปแบบ วันและ วัน คืน จังหวัดสุพรรณบุรี

3. ภูวิช บุญนาคกัลป์ยกร ผู้ประกอบการ I-Destiny Gallery Resort ร่วมกับ ครีเอเตอร์ วิสิทธิ์ ฐิติวรวิช จาก IMAKE Production โมเดลธุรกิจที่สร้างร่วมกัน : ทริปท่องเที่ยวเมืองพนัสนิคม Local Travel Hub by i-Destiny ทริปทัวร์สำหรับคนวัยเกษียณที่มีความสนใจในการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและงานศิลปะ จังหวัดชลบุรี

4. เกศแก้ว ทองจรูญ ผู้ประกอบการ บ้านอยู่ดีมีความสุข ร่วกับครีเอเตอร์ อัมพาวรรณ อินใจเอื้อโมเดลธุรกิจที่สร้างร่วมกัน : เที่ยวทั้งปีที่สีชัง ธุรกิจที่พักในรูปแบบ Eco-Friendly เสริมด้วยแพ็กเกจการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อสังคม (Responsible Tourism) บนเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี

5. จารุเนตร ศรีชู ผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชนตาลโตนด โหนด นา เล ร่วมกับครีเอเตอร์ อพิเชษฐ์ สุขแก้ว โมเดลธุรกิจที่สร้างร่วมกัน :THAHIN Adventures แพ็กเกจทริป วัน คืน ท่องเที่ยว โหนด-นา-เล วิถีชุมชนบ้านท่าหิน จังหวัดสงขลา

โครงการได้ส่งเสริมด้านทุนวัฒนธรรมท้องถิ่น (Local Cultural Asset) การท่องเที่ยว การบริการ ดนตรีและอาหาร โดยกำหนดจังหวัดเป้าหมายที่โดดเด่น จังหวัด ได้แก่ ศรีสะเกษ นครปฐม สุพรรณบุรี ชลบุรี เเละสงขลา ซึ่งเป็นจังหวัดภายใต้เครือข่ายย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ประเทศไทย หรือ Thailand Creative District Network (TCDN) โดยมุ่งเน้นผู้ประกอบการท้องถิ่นที่ดำเนินธุรกิจใน สาขา ได้แก่ การบริการ (Service), การท่องเที่ยว (Local Tourism), ด้านศิลปะ (Art) และด้านวัฒนธรรมท้องถิ่น (Local Culture) และครีเอเตอร์ที่มีความเชี่ยวชาญใน สาขา ได้แก่ ดนตรี (Music), ศิลปะการแสดง (Performing Art), คอนเทนตภาพเคลื่อนไหวและเสียง (Video & Audio Content) และแพลตฟอร์มคอนเทนต์และสื่อสร้างสรรค์ (Content & Media Platform) มาจับคู่เพื่อสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ พร้อมได้รับทุนสนับสนุนในการสร้างสรรค์ผลงานให้เกิดขึ้นจริง และโอกาสในการเชื่อมโยงธุรกิจกับภาครัฐและเอกชนจากเครือข่ายของ CEAร่วมชมการจัดแสดงผลงานของทั้ง 30 คู่ธุรกิจ ที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ พลิกธุรกิจให้มีมูลค่าเพิ่ม และดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งเสริมให้เกิด Soft Power ของท้องถิ่นไทยให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก พร้อมอุดหนุนผลงานจากโครงการฯ ได้ที่งาน ไทย เที่ยว ไทย ครั้งที่ 67” ชั้น LG โซน บูธหมายเลข G35-G37 (Exhibition Hall 5-6) ศูนย์การประชุมเเห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 24 - 27 สิงหาคม 2566 เวลา 10.00 - 21.00 .


ความคิดเห็น