เมื่อ “เสือ” ออกนอกกรอบ ก้าวกระโดดชูกลยุทธ์ S.M.A.R.T Craftmanship เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันเป็นได้มากกว่าปูนซีเมนต์ พร้อมยกระดับผลิตภัณฑ์ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการยกระดับพัฒนามาตรฐานฝีมือแรงงาน ช่างก่อสร้างให้เทียบชั้นมาตรฐานสากล

“เสือ” ผู้ผลิตและจำหน่ายปูนซีเมนต์มากกว่า 100 ปี เปิดตัว 5 กลยุทธ์ใหม่ S.M.A.R.T Craftsmanship โดยจัดกระบวนทัพยกระดับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยกเครื่อง Portfolio ทุกกลุ่มมุ่งเน้นตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม ทุก Segment ทั้งแนวราบ แนวสูง รวมถึงขยายมิติการส่งมอบนวัตกรรมผลิตภัณฑ์พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อาทิ กลุ่มสีซิลิเกต น้ำยาและเคมีภัณฑ์ รวมถึงแผนการยกระดับพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานก่อสร้างสู่ระดับสากล โดยผนึกความร่วมมือกับภาคการศึกษา ภาคอุตสาหกรรม เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยี มาตรฐานช่างฝีมือสู่เครือข่ายความร่วมกันยกระดับมาตรฐานการก่อสร้างของประเทศไทยในอนาคต

 “เสือ” ปักธงผู้นำตลาดปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างอย่างยั่งยืน ภายในปี 2568

นายนพพร กีรติบรรหาร Chief Marketing Officer - Marketing and Branding Cement and Green Solutions Business บริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด  เปิดเผยว่า  กลยุทธ์ทางการตลาด และแบรนด์ ปูนตราเสือ มุ่งสู่การเป็นผู้นำตลาดปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการครบทุกมิติตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า และสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรม โดยมีพันธกิจหลักคือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การนำเสนอระบบการใช้ผลิตภัณฑ์ Wall & Floor Application System ให้บริการลูกค้าอย่างมืออาชีพครบวงจร สร้างความร่วมมือกับเครือข่ายและพันธมิตรทางธุรกิจ  และการสนับสนุน พัฒนาทักษะฝีมือช่างก่อสสร้างให้ได้มาตรฐานระดับสากล

 ชูแนวคิด S.M.A.R.T. Craftsmanship ของ "เสือ" ครอบคลุม 5 มิติหลัก ดังนี้

1. Sustainable Products: "เสือ" มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่กระบวนการผลิต ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้รับรองฉลากรักษ์สิ่งแวดล้อมระดับสากล EPD (Environmental Product Declaration)  ช่วยเพิ่มโอกาสทางการตลาด เป็นการรับรองมาตรฐานข้อกำหนดในหลายประเทศที่ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลุ่มผลิตภัณฑ์ปูนตราเสือที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการใช้ทรัพยากร ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ซีเมนต์ผสม, มอร์ตาร์, กาวซีเมนต์, ซีเมนต์ตกแต่ง,สี และน้ำยาเคมีภัณฑ์ต่างๆ

2. Multi Solutions: "เสือ" ปรับ Product & Service Portfolio ให้ตอบสนองการใช้งานทุกรูปแบบการก่อสร้าง (RCIF) (Residentail ที่พักอาศัย,  Commercial อาคารสูงและห้างร้าน , Industrial โรงงานอุตสาหกรรม และ Infrastructure โครงสร้างพื้นฐาน) ในรูปแบบ Wall and Floor Application System ด้วยระบบการใช้งานและนวัตกรรมที่หลากหลายในทุก Segment ทั้งแนวราบและแนวสูง ครอบคลุมงานระบบผนังและพื้น งานระบบปูกระเบื้อง ระบบงานซ่อมแซม งานทาสี งานระบบกันซึม การฉาบพื้นผิว และงานตกแต่ง เป็นต้น

3. Artful Architecture: "เสือ" ตอบโจทย์งานสถาปัตยกรรม ทั้งผนังและพื้นให้สวยงามและมีมิติ ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ซีเมนต์ตกแต่ง และอื่นๆ  ด้วย Tiger Lifestyle ถูกนำเสนอออกมา เป็นเชิงการใช้งานรูปแบบและสไตล์ต่างๆ ทั้ง งาน และ “เสือ” ขยายศักยภาพแบรนด์เป็นมากกว่าปูนซีเมนต์ ด้วย “Tiger Brand Commerce” เช่น โครงการ คิดจากถุง ด้วยการนำถุงปูนรอทำลายมารีไซเคิลเป็นกระเป๋าสุดชิค การทำ Collaboration Project ต่าง ๆ เช่น Tiger x Phannapast, Tiger x Bangkok Tales, Tiger x Wrangler และยังร่วมกับดีไซน์เนอร์ไทยรุ่นใหม่ Renim Project จนได้ไปจัดแสดงที่ LA Fashion Week และ Tikky Wow  

​4. Raising Standard of Construction: "เสือ" มุ่งพัฒนาทักษะฝีมือช่างก่อสร้างอย่างครบวงจร ทั้งองค์ความรู้ ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ การนำเทคโนโลยี และเครื่องมืออันทันสมัย รวมถึงสามารถเรียนรู้ผ่าน VR Showroom และ Online E-Learning ผ่านสถาบันเทคโนโลยีผนังและพื้น ตราเสือ จ.สระบุรี ด้วยกลยุทธ์ 4M ได้แก่ Man (พัฒนาทักษะแรงงาน) Machine (พัฒนาเครื่องมือและเทคโนโลยี) Method (พัฒนาขั้นตอนการทำงาน) และ Material (พัฒนาปูนซีเมนต์และวัสดุใหม่)  

นอกจากนี้ "เสือ" ยังร่วมมือกับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจพัฒนาเครื่องมือ Smart Tiger Tool ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานผนังและพื้น เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น เครื่องพ่นฉาบผนังปูนซีเมนต์ เครื่องยนต์ดีเซล (TORA S-ONE), เกรียงก่ออิฐพันปี, เกรียงก่ออิฐมวลเบา, เครื่องวัดความพร้อมก่อนปั่นหน้าปูน และเครื่องปั่นหน้าปูน ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร

5. Trusted Partnership: "เสือ" สร้างเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่ง เชื่อมโยงเครือข่ายผู้แทนจำหน่าย และร้านค้าวัสดุก่อสร้าง ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เครือข่ายช่างปูนและผู้รับเหมา สถาปนิก เพื่อต่อยอดโอกาสทางการตลาด และการเพิ่มขีดความสามารถในงานก่อสร้างผนังและพื้นด้วยความเชื่อมั่นตลอดทั้งห่วงโซ่ (Value Chain) โดยได้ร่วมพัฒนาพันธมิตร (Co-Develop) ได้แก่  TACT และ KUBOTA: เครื่องพ่นฉาบผนังปูนซีเมนต์ เครื่องยนต์ดีเซล TORA S-ONE  และ Rothenburg Group: เกรียงก่ออิฐพันปี  รวมถึง SC Asset: ยกระดับคุณภาพงาน ลด Defect และ Waste ในโครงการและมีแผนความร่วมมือพัฒนาองค์ความรู้ด้านงานผนังและพื้นในอนาคตกับ ช.การช่าง: ด้านเทคนิคการฉาบปูนบนผนังอิฐกำลังอัดสูง โครงการเขื่อนหลวงพระบาง สปป.ลาว

"เสือ" ปรับพอร์ตผลิตภัณฑ์ สร้างระบบนิเวศครบวงจร ตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้า ทุก Segment

“เสือ” วางแผนปรับพอร์ตผลิตภัณฑ์ ให้หลากหลายและครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ทุกประเภทการก่อสร้าง ทั้งแนวสูงและแนวราบ ตั้งแต่ผู้ใช้งานทั่วไปจนถึงเจ้าของโครงการ ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์  ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างทุกขนาด พร้อมขยายโอกาส และสร้างความเชื่อมั่นที่คงความแข็งแกร่ง และมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าในทุกขั้นตอน ตอบโจทย์ตลาดและเทรนด์ในอนาคต รวมถึงการมุ่งยกกระดับพัฒนาทักษะฝีกมือแรงงานช่างก่อสร้าง อย่างต่อเนื่องให้เทียบชั้นมาตรฐานสากล

 ความท้าทายของเราวันนี้ กับ “กลยุทธ์อยู่ร่วมหรืออยู่รอด”นายนพพร กล่าว ด้วยแนวคิดของ “เสือ” ถ้าหากเรามองเรื่องของต้นทุนโลคอลของจีน  ในมิติที่จะลดต้นทุนเป็นหลัก ต้นทุนการผลิต ต้นทุนการขาย ตลาดจะแมส ซึ่งเขาเก่งกว่าเราอยู่แล้ว  ดังนั้นหากเราจะแข่งกับเขาเราแข่งด้านต้นทุนไม่ได้ เราต้องแข่งที่เทคโนโลยี  คุณค่า (value) บริการ (service) ซึ่งเชื่อว่าจุดแข็งนี้เป็นข้อได้เปรียบของเรา ยังรวมถึงการเข้าใจวัฒนธรรม ความเข้าใจพฤติกรรมของคนในประเทศไทย  ความเข้าใจในกลุ่มลูกค้า  ซึ่งในมิติการแข่งขันเราจะไม่แข่งด้วยราคา แต่เราจะแข่งด้วย offering ที่แตกต่าง

​หากเรามองจีนเป็นคู่แข่งก็จะยาก แต่ถ้าเรามองจีนเป็นพันธมิตรจะดี สินค้าบางอย่างเราอาจจะยืมหรือดึงเขามาร่วมพัฒนาได้   ดังนั้นแนวคิดของเรา มองจีนเป็นพันธมิตรมากกว่าเป็นคู่แข่ง ซึ่งมองว่ามีโอกาสในการเติมเต็มซึ่งกันและกัน “เราจะไม่แข่งด้วยราคา และเอาคู่แข่งเป็นพันธมิตร”

 "เสือ" ผลักดันพัฒนาทักษะฝีมือช่างก่อสร้าง สร้างเครือข่ายช่างก่อสร้างคุณภาพ

​"เสือ" เล็งเห็นปัญหาขาดแคลนแรงงานมีฝีมือในอุตสาหกรรมก่อสร้าง จึงก่อตั้งสถาบันเทคโนโลยีผนังและพื้น ตราเสือ จ.สระบุรี (Tiger Wall and Floor Technology Center) ศูนย์รวบรวมองค์ความรู้งานก่อสร้างงานผนังและพื้นที่ทันสมัย  โดยในอนาคตมีแผนจะเปิดศูนย์ฝึกอบรมเพิ่มที่จังหวัดลำปางและนครศรีธรรมราช  

​ทั้งนี้ "เสือ" เชื่อมั่นว่าการพัฒนาบุคลากรคือ หัวใจสำคัญในการยกระดับวงการก่อสร้างไทยมุ่งมั่นสร้างช่างฝีมือก่อสร้างที่มีคุณภาพ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยให้เทียบเท่าระดับสากล

ความคิดเห็น